บลจ.กสิกรไทย ส่งกองทุน ALPHA เสริมพอร์ตรายใหญ่ลงทุนอย่างผู้นำ ปรับพอร์ตเชิงรุก ทันทุกสถานการณ์

บลจ.กสิกรไทย ร่วมกับ KBank Private Banking และพันมิตรด้านการลงทุน ชวนลูกค้ารายใหญ่ลงทุนในกองทุนผสมน้องใหม่ “ALPHA-MOD-UI” และ “ALPHA-AGG-UI” ที่มีการจัดพอร์ตลงทุนแบบสำเร็จรูป กระจายการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์ Core & Satellite Portfolio พร้อมการปรับพอร์ตแบบเชิงรุกอย่างยืดหยุ่น เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 21 ..-1 ..นี้ เริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท

 

นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด(บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ร่วมกับ KBank Private Banking และพันมิตรด้านการลงทุน ได้ร่วมมือกันวางกลยุทธ์ พร้อมนำเสนอกองทุนใหม่ ภายใต้ชื่อ ALPHA ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่มีการจัดพอร์ตการลงทุนให้แบบสำเร็จรูปตามความเสี่ยงที่เหมาะสมกับผู้ลงทุนและความต้องการผลตอบแทนที่แตกต่างกัน โดยมีให้เลือก 2 กองทุนได้แก่ กองทุนเปิด Alpha-Moderate ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ALPHA-MOD-UI) และกองทุนเปิด Alpha-Aggressive ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ALPHA-AGG-UI) เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 21 .. – 1 .. 66 เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาท

 

นายวจนะกล่าวต่อไปว่า กองทุน ALPHA-MOD-UI มีความเสี่ยงปานกลาง (Moderate) และกองทุน ALPHA-AGG-UI มีความเสี่ยงสูง (Aggressive) โดยทั้ง 2 กองทุนมีการลงทุนแบบพอร์ตโฟลิโอที่กระจายไปในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนสามารถรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียว อีกทั้งยังเน้นการปรับพอร์ตแบบเชิงรุกบนกรอบการลงทุนที่ยืดหยุ่น โดยมีผู้จัดการกองทุนควบคุมความเสี่ยงและความผันผวนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ

 กองทุนทั้ง 2 มีการแบ่งเป็นพอร์ตลงทุนเป็น พอร์ตลงทุนหลัก (Core Portfolio) และพอร์ตลงทุนเสริม (Satellite Portfolio) โดย Core Portfolio จะเน้นลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในทุกสินทรัพย์เพื่อให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์ โดยมีสัดส่วนประมาณ 50% – 70% ของพอร์ต และ Satellite Portfolio จะเน้นลงทุนในกองทุนที่ดีที่สุดในแต่ละประเภทสินทรัพย์ (Best-In-Class) จากทุกบลจ.ทั้งในและต่างประเทศ โดยอิงตามมุมมองการลงทุนและสถานการณ์ตลาดทั้งในระยะสั้นและระยะยาวนายวจนะกล่าว

 

ทั้งนี้ การกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ (Asset Allocation) ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก หรือเงินสด จะช่วยลดโอกาสขาดทุนและเพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับพอร์ตการลงทุนได้ โดยสินทรัพย์แต่ละประเภทจะทำหน้าที่สร้างผลตอบแทนในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ จากข้อมูลย้อนหลัง 15 ปี นับตั้งแต่ปี ..2007-2022 พบว่า การลงทุนแบบ Asset Allocation จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.1% ต่อปี (ที่มา : J.P.Morgan Asset Management .. 66)

 

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *