บลจ.ทิสโก้ับจังหวะออกกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#8 (TEQT5M8) เอาใจนักลงทุนที่พลาดซื้อกองทุน TEQT5M7 ซึ่งนำเสนอไปช่วงต้นเดือนตุลาคมและได้รับผลตอบรับดี คาดนักลงทุนมั่นใจเศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้นตัวโตเด่นกว่าสหรัฐฯ และยุโรป ราคาหุ้นน่าสนใจ และซื้อดักเม็ดเงิน RMF และ SSF ไหลเข้า เปิด IPO 25-27 ตุลาคม 2565  

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด  เปิดเผยว่า หลังจากที่บลจ.ทิสโก้นำเสนอกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#7 (TEQT5M7) ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า อาจเพราะลูกค้าเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะเติบโตได้ดีจากแรงส่งเรื่องภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว ขณะที่ราคาหุ้นไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูกและซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี นอกจากนี้ จากสถิติพบว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปีดัชนีหุ้นไทยมักปรับขึ้นรับเม็ดเงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ไหลเข้า 

และเพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนให้นักลงทุนที่พลาดจาก IPO กองทุนทริกเกอร์หุ้นไทยรอบก่อนหน้า บลจ.ทิสโก้จึงจับจังหวะเสนอขายกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทยอีกครั้ง ด้วยการนำเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 5M#8 (TEQT5M8) ความเสี่ยงระดับ 6 (ความเสี่ยงสูง) ตั้งเป้าหมายเลิกโครงการเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาท/หน่วยภายในระยะเวลา 5 เดือน เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 25-27 ตุลาคม 2565 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท   

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะเติบโตถึง 3.7% สูงกว่าในปีนี้ที่จะเติบโต 2.8% ซึ่งดีกว่าประเทศสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยุโรปที่คาดว่าปี 2566 เศรษฐกิจจะเติบโตต่ำกว่าปี 2565 โดยเศรษฐกิจไทยได้รับปัจจัยหนุนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยวที่น่าจะกลับมาเติบโตดีเป็น 20 ล้านคนในปีหน้า และ 30 ล้านคนในปี 2567 ขณะที่ตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยสถิติแล้วมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ไหลเข้า นอกจากนี้ในปี 2566 คาดว่าจะมีปัจจัยหนุนจากการเลือกตั้งในประเทศ ซึ่งโดยปกติแล้วตลาดหุ้นมักจะตอบรับในเชิงบวกก่อนการเลือกตั้งประมาณ 3-5 เดือน ด้านกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยเริ่มเห็นการฟื้นตัวโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่กำไรเติบโตได้ดีทั้งในแง่ YoY และ QoQ  และการตั้งสำรองก็ลดลง โดยอาจเป็นผลจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จึงมองว่าหากลงทุนในหุ้นไทยในช่วงนี้น่าจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจ” นายสาห์รัชกล่าว  

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *