นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทุนปีนี้ปรับตัวดีขึ้น หลายประเทศมีสัญญาณการเติบโตที่แข็งแกร่ง ประกอบกับเศรษฐกิจมีแนวโน้มไม่ถดถอย นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ให้มุมมองการดำเนินนโยบายการเงินที่มีแนวโน้มผ่อนคลายในงานประชุม Jackson Hole ครั้งล่าสุด ซึ่งหาก Fed เริ่มมีการปรับลดดอกเบี้ยก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวต่อได้ในระยะข้างหน้า SCBAM จึงมองว่า ระหว่างที่ตลาดกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานนี้ เป็นโอกาสเข้าลงทุนสะสมกับหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มีโอกาสเติบโตจากระดับมูลค่าราคาที่ยังน่าสนใจ เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวได้ อีกทั้งเป็นจังหวะเข้าสู่ช่วงปลายปีที่นักลงทุนเริ่มมองหากองทุนลดหย่อนภาษี และจากเงื่อนไขใหม่ของกองทุน Thai ESG ที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีกับผู้ลงทุนมากขึ้นเป็นสูงสุด 300,000 บาท หรือไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน และลดเวลาการถือครองเหลือ ปีนับจากวันที่ซื้อ SCBAM จึงคัดกองทุนเด่นรวมเป็น “3 เซตกองทุนสุดคุ้ม” ครบทั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) พร้อมจัดแคมเปญพิเศษ Fund Back มอบหน่วยลงทุนกองทุน SCBSFF สูงสุด 1,600 บาท(*) เมื่อลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ ก.ย. 67 ถึง 30 ธ.ค. 67

สำหรับกองทุนแนะนำใน เซตกองทุนสุดคุ้ม” ที่ SCBAM คัดสรรมาให้ ประกอบด้วย (1เซตซิกเนเจอร์ นำโดยกองทุน Thai ESG กับกองทุน SCBTM(ThaiESG): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ไทยผสมยั่งยืน (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) ลงทุนแบบผสมยืดหยุ่น 0-100% ทั้งตราสารหนี้และหุ้นไทยที่โดดเด่นด้าน ESG ตามมาด้วยกองทุน RMF และ SSF ซึ่งแนะนำเป็นกองทุน Flagship ของ SCBAM คือ กองทุน SCBRMS&P500: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุน SCBS&P500-SSF: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (ชนิดเพื่อการออม) ลงทุนหุ้นใหญ่สหรัฐฯ ตามดัชนี S&P500 ที่เศรษฐกิจยังแข็งแกร่งและมีศักยภาพเติบโตสูง (2เซตกระแสนิยม เริ่มด้วยกองทุน Thai ESG กับกองทุน SCBTA(ThaiESG): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนแอคทีฟ (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) ลงทุนเชิงรุกในหุ้นไทยที่คัดสรรแล้วว่ามีความโดดเด่นด้าน ESG มาพร้อมกับกองทุน RMF และ SSF ที่แนะนำเป็นหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์นำธุรกิจโลก คือ กองทุน SCBRMDIGI(A): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ (ชนิดสะสมมูลค่า) เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัลทั่วโลก และกองทุน SCBSEMI(SSF): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (ชนิดเพื่อการออม) ลงทุนหุ้นทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับ Semiconductor และสุดท้าย (3เซตโดนใจ นำโดยกองทุน Thai ESG คือ กองทุน SCBTP(ThaiESG): กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นไทยยั่งยืนพาสซีฟ (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) ลงทุนในหุ้นไทยตามดัชนี SETESG TRI มาพร้อมกับกองทุนแนะนำ RMF และ SSF ที่เป็น Safe Haven ช่วยปกป้องพอร์ตช่วงตลาดผันผวน คือ กองทุน SCBGOLDHRMF: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์THB เฮดจ์ เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุน SCBGOLDH-SSF: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลด์ THB เฮดจ์ (ชนิดเพื่อการออม) ลงทุนในทองคำแท่งทั่วโลกพร้อมป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

นางสาวศุภรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การลงทุนกับตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยปีนี้ อาจยังมีความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ในระยะสั้น แต่หากมองเป็นการลงทุนในระยะยาว ถือเป็นจังหวะดีที่สามารถสร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนได้จากการเลือกลงทุนในกองทุนที่เหมาะสม นอกจากนี้ SCBAM ยังมีกองทุน Thai ESG กองทุน RMF และ กองทุน SSF ให้เลือกอีกกว่า 80 กองทุน ครอบคลุมทุกสินทรัพย์และตลาดลงทุน นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนเพื่อจัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว เพื่อบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *