BBLAM เสนอขายครั้งเดียวกับกองทุนเปิดบัวหลวงเอเชียทริกเกอร์ หรือ ASIATRIGGER ระหว่างวันที่ 2สิงหาคม 2565 ตั้งเป้าพิชิตผลตอบแทนลงทุน 6% ภายใน ปี จากการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย โดยมองว่าปัจจัยลบต่างๆ ที่กดดันตลาดหุ้นในเวลานี้ เป็นโอกาสเข้าลงทุนในบริษัทคุณภาพดี

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2565 ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลงมาพอสมควร ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อและความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต ทั้งที่ในความเป็นจริง สถานการณ์ของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก รวมไปถึงศักยภาพการบริหารผลประกอบการและกำไรของบริษัทในหลายอุตสาหกรรมที่ยังสามารถขยายตัวได้ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหุ้นของบริษัทคุณภาพดี แนวโน้มกำไรเติบโตได้ในระยะยาว และยังมีมูลค่าไม่สูงมาก

สำหรับประเทศที่น่าสนใจเข้าลงทุน เช่น จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยในส่วนของจีน แม้จะมีการใช้นโยบาย ‘Zero COVID’ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะงักงัน แต่สถานการณ์นั้นน่าจะทยอยผ่อนคลายได้มากขึ้นในอนาคต รวมทั้งบริษัทต่างๆ เริ่มสามารถปรับตัวให้เข้ากับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นได้ ทางด้านเวียดนามซึ่งตลาดหุ้นปรับตัวลงมามาก จากมาตรการของภาครัฐที่เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามคอร์รัปชั่น ทำให้การเบิกจ่ายภาครัฐชะลอตัวลงชั่วคราว แต่ก็น่าจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสของธุรกิจในประเทศ ซึ่งเป็นผลดีในระยะยาว และโดยภาพรวมแล้วเศรษฐกิจของเวียดนามยังมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ในขณะที่อินโดนีเซีย คาดหวังว่าน่าจะเห็นภาคการบริโภคที่ดีขึ้นในอนาคต จากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักของประเทศ และยังมีความน่าสนใจที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เป็นต้น และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวอย่างความน่าสนใจในภูมิภาคที่กว้างใหญ่อย่างเอเชีย

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *