บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX) ประกาศบิ๊กดีลแห่งปี ฟากซีอีโอ “ธีร ชุติวราภรณ์” เผยงานนี้มีเงินไหลเข้าบริษัทไม่ต่ำกว่า 4,000 ลบ. หลังที่ประชุมมีมติ ให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) พร้อมเสนอขายและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม(Right Offering) เพื่อเดินหน้าเต็มกำลังสำหรับลุยธุรกิจ โดยมุ่งเน้นธุรกิจในสปป.ลาวเป็นหลัก ตั้งเป้ากำไรโตกว่า 1,000 ลบ.
นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALPHAX เปิดเผยผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2566 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 มีมติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน ไม่เกิน 2,562,500,000 หุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาหุ้นละ 1.13บาท รวมเป็นมูลค่าโดยประมาณ 2,895 ลบ. โดยจัดสรร ดังนี้
ให้แก่ 1.นายเอกะพัน พะพิทัก จำนวน 1,100,000,000 หุ้น 2.นายมนัส ปิยะตรึงส์ จำนวน 1,100,000,000 หุ้น 3.นายวิวัฒน์ กิตติพงศ์โกศลจำนวน 300,000,000 หุ้น 4.นางสาวญาณี จีระประภากาญจน์ จำนวน 25,000,000 หุ้น 5.นายเทพฤทธิ์ ศักดิ์นฤหล้า จำนวน 20,000,000 หุ้น 6.นายกวินท์ ศักดิ์นฤหล้า จำนวน 17,500,000 หุ้น ทั้งนี้บริษัทได้มีการคัดสรรนักลงทุนที่มีศักยภาพ มีความน่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งจะสามารถสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ได้เป็นอย่างดี
โดยตั้งใจเสริมความแข็งแกร่ง และมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจการเงินในสปป.ลาวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านสินเชื่อ ที่จะเสริมด้วยเม็ดเงินประมาณ 1,500 ลบ. อีกทั้งเน้นที่การต่อยอดธุรกิจใหม่ซึ่งบริษัทฯมีความต้องการขยายธุรกิจด้านการเงิน ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ประมาณ 1,000 ลบ. และจำนวนที่เหลือบริษัทใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในการดำเนินกิจการของบริษัท อีกทั้งรองรับและต่อยอดการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า “การเพิ่มทุนครั้งยิ่งใหญ่นี้ จะทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 4,000 ลบ. เป็นการสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เมื่อผสานกับแผนการลงทุนข้างต้น คาดว่าในอนาคตจะสร้างกำไรให้บริษัทฯไม่ต่ำกว่า1,000 ลบ. สอดรับแผนการก้าวสู่ความเป็นผู้นำ อีกทั้งเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตให้แก่ ALPHAX อย่างไร้ขีดจำกัด”