บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) โชว์ฟอร์มดี เผยงบไตรมาส 3 และงบ 9 เดือน ประจำปี 2565 รายได้รวมและกำไรเติบโตสวย โดย SABUY มีรายได้รวม 1,157 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 75%) มีกำไรสุทธิ 501ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 793%) จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในส่วนงวด 9 เดือน มีรายได้พุ่งแรง 2,648 ล้านบาท กำไรโต 964 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 605%)
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,413ล้านบาท และกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจในเครือพร้อมเปิดแผนกลยุทธ์ปรับโครงสร้างบริษัทฯ เสริมศักยภาพ SABUYVERSE ให้แข็งแกร่ง แบบครบวงจร อีกทั้งยกเลิกหุ้น General Mandate ที่เหลืออยู่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างทุนของบริษัท
นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือSABUY เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส3/2565 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,157 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 496 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งรายได้รวมได้เพิ่มขึ้น 401 ล้านบาท คิดเป็น 53% จากการเติบโตของธุรกิจเดิมในเครือและธุรกิจใหม่ มีกำไรข้างต้นเท่ากับ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 66%
และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 155 ล้านบาท คิดเป็น 72% อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 31.9% ลดลงเล็กน้อยจาก 33.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นจาก 28.4% จากไตรมาสที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 444 ล้านบาท คิดเป็น 793%เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา กำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 144 ล้านบาท คิดเป็น 41%
อีกทั้ง SABUY ยังรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทต่างๆ ในกลุ่มของ SABUY ซึ่งมีทั้งหมด 6 กลุ่มธุรกิจคือ 1. Connext ธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่ายและเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม2.Enterprise & Life ธุรกิจให้บริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ด้วยความเข้าใจผู้บริโภค3.Payments and Wallet ธุรกิจบริการด้านการชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์ 4. Financial Inclusion ธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย
5. InnoTainment ธุรกิจนวัตกรรมทางสื่อ ดิจิทัลมีเดีย และเครือข่าย 6. Venture ธุรกิจการลงทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืน
นอกจากนี้รายได้ 401 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นระหว่างไตรมาส 2 และ 3 มาจากกลุ่มธุรกิจเดิม เช่น SABUY Tech, Plus Tech, Vending Plus, SABUY Solutions,
SPEED, etc ซึ่งเป็นสัดส่วนถึง 64% และมาจากธุรกิจใหม่ของบริษัทอีก 36% ซึ่งบางบริษัทยังเข้ามาไม่เต็มไตรมาส ทำให้เห็นได้ว่า กลุ่มสบายมีศักยภาพในการเติบโตของรายได้อีกมาก
คณะกรรมการบริษัทฯ SABUY ได้มีพิจารณาและมีมติที่สำคัญดังต่อไปนี้
1.อนุมัติแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินได้แก่บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) และบริษัท หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์จํากัด (มหาชน) เพื่อศึกษาแนวทางการจัดโครงสร้างกลุ่มบริษัท
2.การจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งจำนวน 4 แห่งเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างใน SABUY โดย 4 บริษัท จะรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจ (1) Connext เพื่อจัดโครงสร้างธุรกิจผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อเชื่อมต่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม, (2) Enterprise & Life เพื่อรองรับธุรกิจบริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค, (3) SPEED เพื่อรองรับธุรกิจ drop-off (โดย SABUY จะถือ 82%)และ (4) AIT เพื่อรองรับธุรกิจ infrastructure ที่บริษัทได้เข้าลงทุนใน AIT
3.พิจารณาอนุมัติยกเลิกการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 3 (SABUY-WC) ชุดเดิม
4.พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ครั้งที่ 3 (SABUY-WC) ชุดใหม่
5.พิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-WC ให้แก่กรรมการ และผู้บริหาร รายที่ได้รับการจัดสรรเกินกว่าร้อยละ 5ของจำนวนหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เสนอขาย จำนวนไม่เกิน 4,000,000 หน่วย (ภายใต้การออกใบสำคัญแสดงสิทธิ SABUY-WC ชุดใหม่ จำนวน40,000,000 หน่วย) ซึ่งได้แก่ นายวิรัช มรกตกาล
6.พิจารณายกเลิกการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกเพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 53,878,650หุ้น
7.พิจารณาการจดทะเบียนลดทุนที่ยังไม่ชำระจากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,249,389,341 บาทเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 2,155,510,691 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัท ทั้งหมดจำนวน 93,878,650 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1บาท
8.พิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับโครงการดังกล่าว บริษัทฯ จึงต้องมีการพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจำนวน 40,000,000บาท มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท จำนวน 40,000,000หุ้น จากทุนจดทะเบียน 2,155,510,691 บาท เป็น2,195,510,691 บาท
9.อนุมัติการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นสำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2565 (Record Date) ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 และการกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3/2565 ในวันที่ 14ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Meeting) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น โดยถ่ายทอดสดจากห้องประชุมชั้น 2สำนักงานของบริษัทฯ เลขที่ 230 ถนนบางขุนเทียน–ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียนกรุงเทพมหานคร 10150
ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นและคงเป้าหมายรายได้ปี2565 ที่ 5,000 ล้านบาท จากธุรกิจเดิมประมาณ3,000 ล้านบาท เพิ่มเติมด้วยธุรกิจใหม่ในกลุ่มConnext ประมาณ 500 ล้านบาท และEnterprise & Life ประมาณ 1,300 ล้านบาท พร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้ถึง 20,000 ล้านบาท ในปี 2566 ที่ประกอบด้วย ธุรกิจเดิม 5,000 ล้านบาท ธุรกิจใหม่ในกลุ่มEnterprise & Life ประมาณ 9,000 ล้านบาท กลุ่มConnext ประมาณ 3,000 ล้านบาท กลุ่มInnoTainment ประมาณ 1,000 ล้านบาท และกลุ่มFinancial Inclusion ประมาณ 2,000 ล้านบาท
“ต่อเนื่องจากการปรับกลุ่มธุรกิจ บริษัทฯสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจConnext ผ่าน Drop-off ต่างๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เครื่องกรองน้ำ จาก TSR และสินค้าผ่าน Vending, และธุรกิจ Enterprise & Life ผ่านทางPTECH เพื่อธุรกิจบริการสำหรับองค์กร ผ่าน SABUY Solutions, SABUY POS และ CRM ผ่าน Buzzebees ในขณะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโดยการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีจากการบริหารงานเป็นกลุ่มบริษัทเข้าด้วยกัน เช่น กลุ่ม Drop-off ตลอดจนการนำบริษัทอื่นๆ เข้ารวมกลุ่มเช่น CitySoft, TSR, SABUY Alliance, iSoftel ฯลฯ” นายชูเกียรติกล่าวปิดท้าย
จากความมุ่งมั่นที่ SABUY ได้มีการขยายธุรกิจต่างๆอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ด้านSustainability ในการเติบโต หรือ Growth Strategy อย่างมีนัยสำคัญ โดยในส่วนของการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Sustainability Growth นั้นบริษัทฯ ได้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งด้านการพัฒนาบุคลากร การนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในระบบงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลบริษัทที่ดี การตรวจสอบภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญ และมีส่วนช่วยให้SABUY สามารถเติบโต มั่นคง และยั่งยืน ต่อไปในอนาคต