นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว หนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญของ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่กลุ่มธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยวสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการในสภาวะวิตการณ์ แพร่ระบาด วันนี้บ้านเดี่ยวเอพี ยังถือครองส่วนแบ่งตลาด (Market Share) มากสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนยูนิตที่ขายได้มากสุดในตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองและปริมณฑล (รอบปี พ.ศ. 2558 – 2564)ควบคู่กับการเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งในมิติจำนวนและมูลค่าการพัฒนาโครงการใหม่โดยปี 2565 ถือเป็นปีที่บ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการมากสุดถึง 23 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 32,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า                             ถ้าเทียบจากปีก่อนหน้า รวมถึงสัดส่วนการกระจายโครงการที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มากขึ้น ซึ่งคาดว่าปีนี้บ้านเดี่ยวเอพีจะมีโครงการปูพรมในทุกพื้นที่มากกว่า 50 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนตัวเลือกที่มากพอที่จะให้ลูกค้าสามารถมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้

“คีย์ไดรฟ์ที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเอพีเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง มาจากทิศทางการพัฒนาสินค้าที่ชัดเจนในการสร้างความต่างในเรื่องของ Product Offering และ Price Package เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาตัวบ้าน จะต้องตอบได้ในเรื่องความคุ้มค่าทั้งในมิติด้านพื้นที่ใช้สอยไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตยกรรมภายนอกที่ต้องส่งผลต่อพื้นที่ภายใน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บ้านเดี่ยวเอพีจะต้องส่งมอบความรู้สึกที่มากกว่าควบคู่ไปกับแพ็กเกจราคาขายที่ลูกค้ารับได้ เมื่อเทียบกับซัพพลายที่เสนอขายอยู่ในทำเลเดียวกัน นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวเสริม

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่ชำนาญ ทั้งทดแทนโครงการเก่าที่ปิดการขายลง หรือการขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่ความท้าทายใหม่ของปีนี้คือการนำบ้านเดี่ยวเอพีบุกเข้าไปยังตลาดใหม่ๆ ในกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์ Market Penetration เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้ง โดยการบุกตลาดใหม่ครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปในทำเลใหม่ๆ ที่ยังไม่มีสินค้าในพอร์ตเอพี ด้วยแบรนด์สินค้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) ภายใต้มาตรฐานที่ไม่ต่างจากบ้านเดี่ยวเอพีในแบรนด์อื่นๆ

ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ถือเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนซัพพลายที่เกิดขึ้นจาก ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ยังมีไม่มาก เราจึงอยากใช้ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่เรามีสร้างโอกาสในการเติบโต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับพอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพีเรา ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกชีวีตดีๆ ที่ต้องการ ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวแบรนด์ MODEN ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี ไม่ต่างจากแบรนด์บ้านเดี่ยวอื่นๆ ของเราที่ประสบความสำเร็จ” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าว

นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ในปัจจุบันความท้าทายของการพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยวมาถึงจุดที่ยกระดับไปมากกว่า เรื่องของทำเลที่ตั้ง และเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ปัจจุบัรูปแบบการใช้พื้นที่ของคนกับฟังก์ชันการใช้งานได้ปลี่ยนแปลงไป COVID-19 กระตุ้นให้เกิดเทรนด์ Home Nesting ขึ้น คือการเนรมิตให้บ้านต้องเป็นทุกอย่างได้ คำว่าที่ทำงาน ก็ลงดีเทลไปได้อีก ที่อาจจะไม่ไช่แค่โต๊ะนั่งประชุมทำงานอย่างเดียว สามารถปรัเป็นสตูดิโอ มุมพักผ่อนในบ้าน ตลอดจนเป็นคาเฟ่เล็กๆ ส่งผลห้การออกแบบบ้านต้องให้ความสำคัญในเรื่อง Flexible Space มากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้ ใช้งานได้จริง ไม่อึดอัด

ดังนั้น ในครึ่งปีหลังนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีจึงพร้อมเปิดตัว 17 แบบบ้านใหม่ เพื่อส่งมอบความรู้สึกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น กับ 18 โครงการที่เตรียมพร้อมเปิดตัว ประกอบด้วย แบรนด์ THE CITY บ้านเดี่ยวเซกเมนต์ไฮเอนด์ ขนาดที่ดิน 100127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 386-560 ตารางเมตร ราคา 12-20 ล้านบาท   แบรนด์ CENTROบ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซกเมนต์กลางบน ขนาดที่ดิน 50-62ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203-305 ตารางเมตร ราคา 5-12 ล้านบาท และแบรนด์น้องใหม่ “MODEN” บ้านเดี่ยวสำหรับคน Gen Z ที่มาพร้อมกับ 5 แบบบ้านที่ให้ความรู้สึกใหม่ ขนาดที่ดิน 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 163-227 ตารางเมต โหมดราคา 3-5 ล้านบาท

หัวใจของการออกแบบพัฒนาโครงการในวันนี้และในอนาคตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่แบรนด์ต้องกลับมาทำการบ้านในการออกแบบพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการเข้าใจอินไซต์ของการใช้พื้นที่ที่แตกต่างกันของทุกสมาชิกในครอบครัว เพราะถ้าเราถอดรหัสความต้องการในการใช้พื้นที่จริงๆ ของบ้านหลังหนึ่งแล้วนั้น เราจะพบว่าทั้งเพศ วัย ไลฟ์สไตล์ ความต้องการพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้านหนึ่งหลัง มีรายละเอียดที่การออกแบบจะต้องเข้าไปตอบโจทย์ ที่สำคัญวันนี้ลูกค้ากำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใหม่ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่น่าเบื่อ พื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ในการอยู่อาศัยในมุมมองใหม่ที่ต่างไปจากเดิม นางพิมพรรณ กล่าวเน้นย้ำ

ทั้งนี้ ปรัชญา FUNCTIONAL IS BEAUTIFULยังคงเป็นจุดยืนสำคัญในการพัฒนาบ้านเดี่ยวเครือเอพีทุก แบรนด์ เพื่อให้บ้านเดี่ยวเอพีเป็นบ้านที่เข้าใจทุกชีวิต ภายใต้ 3 แนวคิดสำคัญที่เป็นกรอบการทำงานที่ผลักดันให้บ้านเดี่ยวเครือเอพีประสบความสำเร็จเสมอมา ประกอบด้วย  

1. Harmonious Living for All สร้างพื้นที่ส่วนตัว กับพื้นที่ของทุกคนให้เกิดขึ้น แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านเอพีที่ไม่ใช่แค่คำว่า “พื้นที่ใช้สอย” แต่เป็น พื้นที่ที่ตอบทุกคนในบ้านยกตัวอย่าง การสร้างพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่แค่การมีห้องนอนส่วนตัว แต่หมายถึงการออกแบบมุมต่างๆ ภานในบ้าน ให้สามารถใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวมได้

อย่าง THE CITY ดีไซน์ใหม่ นอกจากการออกแบบพื้นที่ชั้น 1 ให้มี Double Volume เชื่อมต่อพื้นที่แนวตั้งแล้ว บ้านหน้ากว้างยังสะท้อนให้ทุกพื้นที่ภายในเกิดการเชื่อมต่อเข้าหากัน เป็นได้ทั้งพื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ทำงาน พื้นที่รับแขก หรือโต๊ะอาหารสำหรับทุกสมาชิก บนความโล่งโปร่ง สบาย และรับแสงจากธรรมชาติ รวมถึงการรองรับเทรนด์ผู้สูงอายุ กับการจัดวางพื้นที่ห้องนอนชั้น 1 ให้ใกล้กับ จุดจอดรถ หรือครั้งแรกกับการออกแบบห้องใต้หลังคาในโครงการ THE CITY จรัญฯ ปิ่นเกล้า ถือเป็นแนวคิดในการสร้างพื้นที่ใหม่ๆ ให้การอยู่อาศัยในบ้านมีสีสันมากยิ่งขึ้น

2. Spaces with Function-led Aesthetic มากกว่าความสวยงาม แต่ทุกพื้นที่คือการใช้งานได้จริง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทีมออกแบบ ด้วยการคำนึงถึงการใช้งานได้จริง ที่เริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการจัดวางผังโครงการ เพื่อให้เกิดเป็น Smart Space Smart Layout เช่น การจัดวางพื้นที่                  ในบ้านแบรนด์ CENTRO ดีไซน์ใหม่ ที่เปลี่ยนวิธีคิดในการจัดวาง 3 ฟังก์ชันหลักในชั้น 1 อย่างพื้นที่จอดรถ พื้นที่เก็บของนอกบ้าน และมุมมองทางเข้าบ้านใหม่ จนเกิดพื้นที่ใช้สอยในมิติใหม่จากพื้นที่ที่ทับซ้อนอยู่ หรืออย่างแบบบ้านแบรนด์ MODEN พื้นที่ภายในบ้านมีการออกแบบพื้นที่ส่วน ชั้น 2 ให้เป็น  Pocket  Space เชื่อมต่อกับ Family Area ซึ่งลูกค้าสามารถปรับพื้นที่ในมิติใหม่ๆ เพื่อรองรับกิจกรรมอื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด
3. Meaningful Innovations for Life การผสานเทคโนโลยีเข้ากับการอยู่อาศัย เพื่อสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิต แนวคิดนี้อยู่บนความเชื่อที่ว่านวัตกรรม คือการเพิ่มความลงตัวให้การใช้ชีวิต จนนำมาสู่คอนเซ็ปต์ HYBRID LIVING ที่ถูกผสมผสานเข้าไปในทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวเอพี ทั้งเรื่องของ Security นวัตกรรมการรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน Comfort  นวัตกรรมเพื่อความสะดวกสบายกับระบบสั่งการอัจฉริยะ Cost-saving นวัตกรรมเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางCommunity นวัตกรรมที่ดูแลคอมมูนิตี้ตลอด 24 ชั่วโมง

การตอบรับที่ดี ถือว่าเป็นกำลังใจสำคัญของทีมมาก เพราะเรามั่นใจว่า เราเป็นแบรนด์ที่พัฒนาบ้านอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เรามองว่า ไม่ใช่แค่การได้มาซึ่งที่ดิน และนำแนวความคิดเดิม แบบบ้านเดิมมาสร้างเพื่อขาย แต่เราให้ความสำคัญกับการออกแบบบ้านใหม่ พื้นที่ใช้สอย หน้าตาความสวยงาม ต้องไปพร้อมกับบริบทของโลเคชั่นนั้นจริงๆ รวมถึง เราศึกษาเรื่องเทรนด์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดมา เราศึกษาพฤติกรรม ความต้องการของวันนี้ ลึกลงไปเรื่อยๆ  ลึกไปถึงการใช้พื้นที่ในบ้าน ว่าแต่ละสมาชิกในครอบครัวเค้าจะสามารถมี connected space, private space ที่ลงตัวที่สุดได้อย่างไร

สำหรับในไตรมาส 3 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 8,770 ล้านบาท เป็นแบรนด์ THE CITY จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ THE CITY บางนา จำนวน 167 ยูนิต มูลค่า 2,150 ล้านบาท และโครงการภายใต้แบรนด์ CENTRO จำนวน 5 โครงการ มูลค่า 6,620 ล้านบาท

พร้อมสร้างสีสันการตลาดไตรมาส 3 ผ่านแคมเปญ THE NEIGHBOR ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน เป็นการต่อยอด จาก MINI SERIES YOUTUBER ที่ทำปีที่แล้ว และได้รับกระแสที่ดี คือการที่เราเชิญคนดัง และเหล่า YouTube ที่เค้าเป็นลูกบ้านเอพี เป็นคนที่ตัดสินใจซื้อ และใช้ชีวิตอยู่จริงมาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้สเปซในบ้านเอพี

THE NEIGHBOR MINI SERIES #ชวนคุณมาอยู่ด้วยกัน ปีนี้ได้ยกทัพคนดังและเหล่า YouTube ลูกบ้านเอพีตัวจริง เช่น ปุ้มปุ้ย-กวินท์, ส้ม-มารี, มาร์ช จุฑาวุฒิ, ณัฏฐ์ เทพหัสดิน, นับเงิน, เบียร์ เดอะ วอยซ์, กัปตันควินท์, มดณปภัช ที่จะมาเปิดบ้าน และครั้งแรกที่พวกเค้าจะได้เข้าไปทัวร์สเปซในบ้าน Virtual Home พร้อมเปิดประตูความสุขแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ www.ap.com/home และ Facebook APThaiHome

ทั้งนี้โครงการภายใต้แบรนด์ MODEN บริษัทฯ เตรียมจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 3,550 ล้านบาท  ได้แก่ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์, MODEN พระราม 2 และ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ซึ่งอยู่ในโหมดราคา 3-5 ล้านบาท

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *