บลจ.ยูโอบี ขาย กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y3
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ยูโอบี จำกัด ประเทศไทย เปิดเผยว่าโอกาสการลงทุนในทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอน ทั้งจากการดำเนินนโยบายทางการเงินการลงทุนและสถานการณ์ความตึงเครียดของสงครามและส่งผลให้การลงทุนทองคำจึงเป็นหนึ่งในโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ บลจ.ยูโอบี นำเสนอกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y3 (UGLDC1Y3) แสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มทั้งตลาดขาขึ้นและขาลงจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่อ้างอิงกับระดับราคาของ SPDR Gold Shares ETF
เศรษฐกิจโลกในปี 2023 เติบโตที่ 3.10% และคาดการณ์จะปรับลดลงที่ 2.70% ในปีนี้ และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.00% ในปีหน้า (ที่มา : Bloomberg Analyst Consensus as of 8 February 2024) จากที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องและชะลอตัวในลักษณะน้อยกว่าที่ตลาดกังวล (Better Than Fear) รวมถึงทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนและภาคการจ้างงานที่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปช่วยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีโอกาสสูงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวแบบไม่รุนแรง (Soft Landing) ด้านอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Yield) มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสู่กรอบ 0.50% –2.00% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายกำลังผ่านจุดสูงสุดและมีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงและทยอยลดดอกเบี้ยนโยบายได้ 3-4 ครั้ง ในปี 2024 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองอัตราเงินเฟ้อที่นักลงทุนจะค่อยๆปรับลดลงความคาดหวังตามทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่อาจไม่ได้ปรับลดลงเร็วมาก (Sticky Inflation) อีกทั้ง สถานการณ์ความขัดแย้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์และสงครามที่เกิดขึ้นมักส่งผลเชิงบวกต่อการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำเพียงระยะสั้น ดังนั้น ภาวะตลาดในปัจจุบันจึงเป็นโอกาสการเข้าลงทุนทองคำ
กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลด์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y3 (UGLDC1Y3) มีระดับความเสี่ยง 5 กองทุนจะแบ่งเงินลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 การลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและ/หรือ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก และ/หรือ ตราสารหนี้ในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) หรือเทียบเท่า รวมกันทั้งสิ้นประมาณร้อยละ 95.00 ถึง 99.90 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายให้เงินลงทุนในส่วนนี้เติบโตเป็นร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน อย่างไรก็ดี ในกรณีที่สภาวการณ์ไม่ปกติกองทุนอาจพิจารณาป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน อย่างไรก็ดี กองทุนยังคงมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk) ที่เกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร / เงินฝาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนได้
ส่วนที่ 2 การลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่ม โดยกองทุนจะแบ่งเงินลงทุนประมาณ ร้อยละ 0.10 ถึง 5.00 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เช่น สัญญาวอร์แรนท์ (Warrant) หรือสัญญาออปชั่น (Option) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับระดับราคาของสินทรัพย์อ้างอิง คือ SPDR Gold Shares ETF ซึ่งมีนโยบายลงทุนในทองคำแท่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงหรือเทียบเท่าผลตอบแทนของราคาทองคำแท่งภายหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งหมดของกองทุน ในกรณีที่สินทรัพย์อ้างอิง SPDR Gold Shares ETF เคลื่อนไหวออกนอกกรอบ โดยลดลงต่ำกว่า 20% หรือ เพิ่มขึ้นสูงกว่า 20% ในวันใดวันหนึ่ง ลูกค้าอาจจะได้รับผลกระทบและได้รับเพียงผลตอบแทนชดเชย 0.70%