นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ทิศทางโดยรวมของตลาดหุ้นปีนี้ปรับตัวขึ้น และมี Sentiment การลงทุนที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ และยุโรป และกลุ่มตลาดหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ เช่น เกาหลีใต้ เวียดนาม อินเดีย ที่มีปัจจัยจากการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/66 ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ในขณะที่ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในจุดที่ต้องเฝ้าระวังจากแนวโน้มการชะลอตัว รวมถึงปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน SCBAM จึงแนะนำให้จัดพอร์ตลงทุนผ่านการทำ Asset Allocation กับกลุ่มสินทรัพย์คุณภาพดีที่มีแนวโน้มเติบโต และเสริมสภาพคล่องให้พอร์ตเพื่อเข้าลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม ก็จะทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายได้ ดังนั้น SCBAM จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารตลาดเงิน หรือ SCBMONEY กองทุนทางเลือกในการพักเงิน พร้อมสับเปลี่ยนเข้าลงทุนได้ทันในทุกจังหวะ และยังมีโอกาสคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากทั่วไปอีกด้วย โดยมีกำหนดเสนอขายครั้งแรกวันที่ 16-27 กุมภาพันธ์ 2567 นี้

กองทุน SCBMONEY กองทุนตลาดเงินในประเทศ ที่เน้นลงทุนเงินฝาก และกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ไทยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป โดยมีอายุเฉลี่ยของกองทุนน้อยกว่า 3 เดือน  โดยกองทุนจะคัดเลือกตราสารจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและมูลค่าของสินทรัพย์ พิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ งบการเงินของผู้ออกตราสาร และแนวโน้มของอุตสาหกรรม เปรียบเทียบมูลค่าของตราสารจาก Yield หรือ Credit spread เพื่อหาตราสารที่มีมูลค่าเหมาะสม หรือ ต่ำกว่ามูลที่แท้จริงเพื่อเข้าลงทุน อีกทั้ง กองทุนมีการควบคุมความเสี่ยงจากการวิเคราะห์อัตราส่วนสภาพคล่องที่เหมาะสมกับกองทุน จึงทำให้กองทุนมีสภาพคล่องสูง จึงสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และได้รับเงินขายคืนใน วันทำการ

นางนันท์มนัส กล่าวต่อว่า “กองทุน SCBMONEY เป็นกองทุนรวมความเสี่ยงต่ำระดับ จึงมีความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ต่ำและมีสภาพคล่องสูง การมีกองทุน SCBMONEY ติดพอร์ต จึงเปรียบเสมือนการมีเงินสดในบัญชีที่พร้อมใช้สำหรับสับเปลี่ยนระหว่างกองทุน อีกทั้ง กองทุนสามารถรับรู้ผลตอบแทนได้ในทุกวัน ซึ่งจะแตกต่างกับดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับเป็นรอบ และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปจากการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ จึงเหมาะใช้เป็นกองทุนพักเงินที่มีโอกาสรับผลตอบแทนระหว่างรอเข้าลงทุนได้อีกด้วย”

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *