นายพรชลิต  พลอยกระจ่าง  รองกรรมการผู้จัดการ  Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) จะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 16 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 หรือระหว่างวันที่  1 กรกฎาคม 2566  ถึงวันที 30 กันยายน 2566  ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.02950 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน  เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่  24 พฤศจิกายน  2566  และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ ธันวาคม 2566

 

เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน  จนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งล่าสุด SUPEREIF จ่ายเงินปันผลรวม 16 ครั้ง คิดเป็นเงิน 3.01224 บาทต่อหน่วย   และจ่ายเงินคืนทุนไป  ครั้ง   คิดเป็นเงิน  0.220 บาทต่อหน่วย  รวมเป็นเงินปันผลและเงินคืนทุนที่จ่ายออกไปทั้งสิ้น  3.23224  บาทต่อหน่วย

โดยตั้งแต่ปีปฏิทิน 2566 เป็นต้นไป หากกองทุนฯ จะมีการจ่ายเงินคืนทุนสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างปีปฏิทิน กองทุนฯ จะรวบรวมเงินคืนทุนดังกล่าวไปจ่ายพร้อมกับเงินจ่ายที่จะพิจารณาจากรอบผลการดำเนินงานสุดท้ายของปีปฏิทินนั้นๆ โดยสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 กองทุนฯ จะมีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 32.2 ล้านบาท หรือ 0.06260 บาทต่อหน่วย และสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 กองทุนฯ จะมีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 58.1 ล้านบาท หรือ 0.11284 บาทต่อหน่วย

สำหรับสรุปผลการดำเนินงาน เดือนแรกของปี  2566  พบว่า มีรายได้รวม 615.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่  475.9 ล้านบาท  ลดลง 2.3%  จากงวดเดียวกันของปีก่อน สำหรับอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิในช่วง เดือนแรกปี 2566 เท่ากับ 77.4% ลดลงจาก 79.6% ในงวดเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนผลการดำเนินงานไตรมาสที่ ปี 2566 พบว่ามีรายได้รวมเท่ากับ  173.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 20.4% จากไตรมาสก่อน ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 126.2 ล้านบาท ลดลง 1.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และลดลง 25.7% จากไตรมาสก่อน ส่วนอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ อยู่ที่ 73.0% ลดลงจาก 75.6% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 78.1% ในไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ กองทุนรวม SUPEREIF ลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิจากการดำเนินโครงการกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาดเล็กมากของบริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 19 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ  ปราจีนบุรี  สระแก้ว  พิจิตร   และเพชรบูรณ์    โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุดที่เสนอขายตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  หรือการไฟฟ้านครหลวง (แล้วแต่กรณี) รวม 118 เมกะวัตต์

ขณะที่ ระยะเวลาโอนสิทธิรายได้สุทธิ  เริ่มตั้งแต่วันที่  14 สิงหาคม 2562  จนถึงวันสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแต่ละโครงการ ซึ่งระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้าภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 21-22 ปี นับจากวันที่ 14 สิงหาคม 2562 โดยวันสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโครงการสุดท้ายจะสิ้นสุดในวันที่ 26 ธันวาคม 2584

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *